ทำไมเหงือกถึงอักเสบ? รู้จักกับโรคเหงือกอักเสบทำไมฟันจึงเหลือง? สาเหตุและวิธีแก้ไข

ทำไมเหงือกถึงอักเสบ? รู้จักกับโรคเหงือกอักเสบทำไมฟันจึงเหลือง? สาเหตุและวิธีแก้ไข

ทำไมเหงือกถึงอักเสบ? รู้จักกับโรคเหงือกอักเสบทำไมฟันจึงเหลือง? สาเหตุและวิธีแก้ไข

Blog Article

1. ตรวจฟันทั่วไป

การสอบถามประวัติสุขภาพ: หมอฟันจะถามเกี่ยวกับประวัติการรักษาฟันและสุขภาพร่างกาย
การตรวจสอบฟันและเหงือก: ใช้อุปกรณ์ทันตกรรมและเครื่องมือทันตกรรมเพื่อตรวจหาฟันมีปัญหา, คราบพลัค, และโรคเหงือก
การใช้รังสีเอกซ์: ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจต้องการภาพถ่ายเอกซ์เรย์เพื่อดูสภาพภายในของฟันและสภาพกระดูก

2. ขัดฟัน

การขูดหินปูน: ใช้เครื่องมือทันตกรรมหรือเครื่องมือพิเศษเพื่อขูดหินปูนออกจากฟันและรอบเหงือก
การทำความสะอาดฟัน: ใช้แปรงไฟฟ้าและยาสีฟันพิเศษเพื่อทำให้ฟันสะอาด
การทาฟลูออไรด์: ใช้สารฟลูออไรด์เพื่อป้องกันการเสื่อมของฟัน

3. การซ่อมแซมฟันผุ

การขจัดฟันผุ: ใช้เครื่องมือเฉพาะทางเพื่อทำความสะอาดฟันที่ผุ
การซ่อมแซมฟัน: ใส่สารอุดฟันเช่น เรซินคอมโพสิต, อมัลกัม, หรือทอง
การปรับแต่งฟันที่อุด: ทำให้วัสดุอุดฟันเรียบเนียนให้เรียบเนียน

4. การถอนฟันคุด

การตรวจสอบฟันก่อนถอน: คุณหมอจะตรวจสภาพฟันและเตรียมสถานที่โดยการฉีดยาชา
การดึงฟัน: ใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อดึงฟันออก
การดูแลหลังถอนฟัน: ให้วิธีการเกี่ยวกับการรักษาแผลและการรักษาให้หายเร็ว

5. ครอบฟันและสะพานฟัน

การเตรียมฟัน: ทำให้ฟันบางลงเพื่อให้สะพานฟันติดพอดี
การพิมพ์โครงสร้างฟัน: สร้างโครงฟันเพื่อสร้างฟันใหม่ที่พอดี
การใส่ครอบฟัน: ติดตั้งสะพานฟันด้วยซีเมนต์ทันตกรรม

6. การแก้ไขฟันเก

การตรวจและวางแผนการจัดฟัน: หมอฟันจะทำการตรวจโครงสร้างฟันและถ่ายรังสีเอกซ์เพื่อวางแผนการจัดฟัน
การติดเครื่องมือทันตกรรม: ใส่เครื่องมือทันตกรรมเช่น เบรส, เครื่องมือรักษาฟัน, หรือเครื่องมือพลาสติก
การปรับเครื่องมือจัดฟัน: ปรับเครื่องมือจัดฟันทุกๆ 4-6 สัปดาห์

7. ทำฟันปลอม

การสร้างแบบฟัน: ถ่ายแบบฟันและโครงสร้างฟันเพื่อทำฟันเทียมที่เหมาะสม
การทดลองฟันปลอม: ทดลองใส่ฟันปลอมเพื่อปรับแต่งและให้เข้ากับปากผู้ป่วย
การใส่ฟันปลอม: ใส่ฟันปลอมและให้วิธีการเกี่ยวกับการรักษา

8. รักษารากฟัน

การให้ยาชา: ให้ยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด
การขจัดฟันที่อักเสบ: ใช้เครื่องมือเฉพาะทางเพื่อกำจัดฟันอักเสบและทำความสะอาดรากฟัน
การเติมรากฟัน: เติมวัสดุอุดฟันเพื่อปิดรากฟันและทำให้ฟันแข็งแรง

9. ฟอกสีฟัน

การทำความสะอาดช่องปาก: ทำความสะอาดฟันให้ปราศจากคราบก่อนการฟอกสีฟัน
การทาเจลฟอกสีฟัน: ใช้เจลฟอกสีฟันที่มีสารฟอกสีฟันหรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์
การใช้แสงเลเซอร์: ใช้แสงพิเศษเพื่อเร่งกระบวนการฟอกสีฟัน

10. ผ่าตัดช่องปาก

การตรวจสอบก่อนผ่าตัด: ตรวจสภาพฟันและวางแผนการรักษา
การฉีดยาชา: ฉีดยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด
การผ่าตัด: ทำการผ่าตัดเพื่อถอนฟันคุดหรือทำการรักษา
การดูแลแผลหลังผ่าตัด: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการลดความเจ็บปวด

ปัญหาของโรคทางฟันมีหลายอย่างและสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากได้หลายระดับ ต่อไปนี้คือปัญหาโรคทางฟันที่พบบ่อย:
1. ฟันผุ ฟันผุ

สาเหตุ: เกิดจากแบคทีเรียในปากที่ย่อยสลายน้ำตาลและแป้ง ทำให้เกิดกรดที่ทำลายเคลือบฟัน
อาการ: ฟันเป็นรู, เสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็น, ปวดฟัน
การรักษา: อุดฟัน, ครอบฟัน, รักษารากฟัน

2. โรคเหงือก เหงือกอักเสบ

สาเหตุ: การสะสมของคราบพลัคและหินปูนที่เหงือก
อาการ: เหงือกบวม, เหงือกเลือดออกง่าย, มีกลิ่นปาก, ฟันโยก
การรักษา: ขูดหินปูน, ขัดฟัน, รักษาปริทันต์

3. ฟันคุด ฟันคุด

สาเหตุ: ฟันที่ไม่สามารถงอกออกมาได้ตามปกติ มักเกิดกับฟันกรามซี่สุดท้าย
อาการ: ปวดฟัน, เหงือกบวม, ฟันข้างเคียงได้รับความเสียหาย
การรักษา: ผ่าตัดฟันคุด

4. ฟันเสียว อาการเสียวฟัน

สาเหตุ: เคลือบฟันสึกกร่อน, เหงือกร่น, ฟันผุ
อาการ: เสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อน, เย็น, หวาน หรือเปรี้ยว
การรักษา: ใช้ยาสีฟันสำหรับฟันเสียว, การเคลือบฟลูออไรด์, การอุดฟัน

5. ฟันแตกหรือฟันหัก ฟันบิ่น

สาเหตุ: อุบัติเหตุ, กัดของแข็ง, ฟันผุ
อาการ: ฟันบิ่น, ปวดฟัน, ฟันเคลื่อนไหว
การรักษา: อุดฟัน, ครอบฟัน, รักษารากฟัน

6. ฟันเหลืองหรือคราบฟัน ฟันเหลือง

สาเหตุ: การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสี, การสูบบุหรี่, การใช้ยาบางชนิด
อาการ: ฟันเปลี่ยนสี, ฟันมีคราบ
การรักษา: ฟอกสีฟัน, ขัดฟัน, การดูแลฟันอย่างถูกวิธี

7. ฟันเกหรือฟันห่าง คลินิกทันตกรรม ฟันไม่เรียงตัว

สาเหตุ: พันธุกรรม, การสูญเสียฟันก่อนวัยอันควร
อาการ: ฟันไม่เรียงตัว, ฟันห่าง, มีช่องว่างระหว่างฟัน
การรักษา: จัดฟัน, การใส่สะพานฟัน, การทำวีเนียร์

8. กลิ่นปาก ปากเหม็น

สาเหตุ: การสะสมของแบคทีเรียในปาก, โรคเหงือก, ฟันผุ
อาการ: มีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์
การรักษา: รักษาฟันผุ, รักษาโรคเหงือก, การทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี

9. ฟันหลุด ฟันหลุดออกมา

สาเหตุ: โรคเหงือกขั้นรุนแรง, อุบัติเหตุ, ฟันผุอย่างรุนแรง
อาการ: ฟันโยก, ฟันหลุดออกมา
การรักษา: การใส่ฟันปลอม, การใส่สะพานฟัน, การทำรากฟันเทียม

10. โรคเยื่อบุในช่องปาก โรคเยื่อบุช่องปาก

สาเหตุ: การติดเชื้อ, การบาดเจ็บ, การแพ้สารบางชนิด
อาการ: แผลในปาก, เจ็บปาก, เหงือกบวม
การรักษา: การใช้ยาแก้อักเสบ, การรักษาความสะอาดช่องปาก, การหลีกเลี่ยงสารที่แพ้

ปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันและรักษาได้ด้วยการดูแลฟันและช่องปากอย่างถูกวิธี และการไปพบหมอฟันอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการหรือสงสัยว่ามีปัญหาทางฟัน ควรปรึกษาหมอฟันเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

1. รู้จักวิธีป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ทำไมฟันจึงเหลือง? สาเหตุและวิธีแก้ไข
3. กลิ่นปากแรงเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีป้องกันและรักษา
4. โรคเหงือกอักเสบ: สาเหตุ อาการ และการรักษา
5. ฟันคุด: อาการที่ควรรู้และวิธีการรักษา
1. การป้องกันฟันผุ: เคล็ดลับที่คุณควรรู้

การเลือกยาสีฟัน: เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
การทำความสะอาดฟัน: แปรงฟันวันละสองครั้ง
การใช้ไหมขัดฟัน: การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ
การตรวจฟันเป็นประจำ: ตรวจฟันปีละสองครั้ง
การลดน้ำตาล: หลีกเลี่ยงอาหารหวาน

2. ฟันเหลืองเพราะอะไร? แก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยวิธีนี้

การดื่มเครื่องดื่มที่มีสี: กาแฟ
การสูบบุหรี่: บุหรี่
การไม่ดูแลสุขภาพฟัน: การไม่แปรงฟัน
การใช้ยาบางชนิด: ยาปฏิชีวนะ
วิธีการฟอกสีฟัน: การฟอกสีฟันที่คลินิก

3. กลิ่นปากแรงเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีป้องกันและรักษา

การสะสมของแบคทีเรีย: แบคทีเรียในปาก
การรับประทานอาหารบางประเภท: อาหารที่มีกลิ่น
การไม่ทำความสะอาดลิ้น: การไม่แปรงลิ้น
การมีโรคเหงือก: เหงือกอักเสบ
การใช้ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน

4. วิธีดูแลและป้องกันโรคเหงือกอักเสบ

การสะสมของคราบพลัค: หินปูนที่เหงือก
อาการเหงือกอักเสบ: เหงือกแดง
การทำความสะอาดฟัน: การใช้ไหมขัดฟัน
การขูดหินปูน: การขูดหินปูนที่คลินิก
การดูแลเหงือก: การใช้ยาสีฟันสำหรับเหงือกอักเสบ

5. เมื่อฟันคุดขึ้นควรทำอย่างไร? แนวทางการดูแลและรักษา

อาการของฟันคุด: เหงือกบวม
สาเหตุของฟันคุด: ฟันกรามซี่สุดท้ายไม่งอก
การตรวจฟันคุด: การเอ็กซ์เรย์ฟัน
การผ่าตัดฟันคุด: การผ่าตัดโดยทันตแพทย์
การดูแลหลังผ่าตัดฟันคุด: การป้องกันการติดเชื้อ

หวังว่าหัวข้อเหล่านี้จะน่าสนใจและเป็นประโยชน์ค่ะ!

Report this page